Friday, August 29, 2014

แปรงขนน้องหมายังไงให้ถูกวิธี




      การแปรงขนหรือหวีขนให้สุนัข เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้สุนัขของเราดูมีสุขภาพดี มีผู้เลี้ยงสุนัขหลายคนเข้าใจผิดว่า การแปรงขนหรือหวีขนให้สุนัข สามารถทำได้กับสุนัขที่มีขนยาวเท่านั้น 

     แต่จริงๆ แล้วสุนัขทุกพันธุ์ต้องการการแปรงหรือหวีขนเหมือนกัน เพราะเวลาที่เราแปลงขนให้สุนัขนอกจากจะทำให้ขนของสุนัขสวย ไม่พันกันแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำความสะอาดขนสุนัขให้สะอาดได้

     เพราะะเวลาเราแปรงขน สิ่งสกปรกจะถูกกำจัดออกมารวมทั้งบรรดาขนเก่า ที่หลุดออกมา นอกจากนั้นผิวหนังที่ได้รับการ กระตุ้นจากการ หวีหรือแปรงก็จะขับน้ำมันมาเคลือบขนสุนัขทำให้ขนนุ่ม และเป็นเงางาม โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินไปซื้ออาหารเสริมมาให้สุนัขกินเลยล่ะค่ะ
ปัญหาอย่างหนึ่งเวลาที่เราต้องการหวีขนให้สุนัขก็คือ เขาจะไม่ชอบและไม่ค่อยยอมให้เราหวีขนให้สักเท่าไหร่ ดังนั้นทางที่ดีเราควรจะฝึกหวีขนให้สุนัขของเราตั้งแต่เริ่มนำมาเลี้ยง เพื่อที่จะให้เขาเคยชิน และยอมที่จะให้เราหวีขนเสริมสวยได้แต่โดยดี

     แต่ก่อนที่เราจะแปรงหรือหวีขนให้สุนัข สิ่งที่เราต้องรู้ก่อนก็คือ วิธีการเลือกหวีที่เหมาะกับสุนัขของเรา ...

 
เลือกแปรงยังไงให้เหมาะกับสุนัขของเรา?

- แปรงขนลวด หรือ สลิคเกอร์ (Slicker Brush) ใช้สางขนที่พันเป็นกระจุกหรือตีขนฟู เหมาะสำหรับสุนัขขนหยิกหนาฟู เช่น พูเดิ้ล บิชอง ปอม ฯลฯ

- แปรงหมุด (Pin Brush) สำหรับแปรงขนเป็นประจำทุกวัน ควรเลือกใช้ชนิดที่หัวหมุดหล่อเป็นชิ้นเดียวกับซี่แปรง หรือชนิดไม่มีหมุดปลายซี่แปรงโค้งมน เพื่อป้องกันการดึงขนขาด เหมาะสำหรับสุนัขทุกสายพันธุ์ หรือสุนัขขนยาว เช่น ชิสุ มอลทีส คอลลี่ ฯลฯ     
 
- แปรงขนหมู (Bristle Brush) สำหรับสุนัขขนสั้น หรือใช้นวดผิวสุนัขขนยาวก็ได้

 
... หวีขนให้น้องหมาเป็นประจำทุกวันเพื่อสุขภาพขนและผิวหนังที่ดี และที่สำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขนพันกันจนเป็นสังกะตังซึ่งจะทำให้ เกิดโรคผิวหนังอักเสบได้ค่ะ 


บทความโดย:  Dogilike.com  
ข้อมูลอ้างอิง: http://www.hairofthedogsalon.co.uk/
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Saturday, August 16, 2014

7 สิ่งดีๆ ที่ผู้เลี้ยงน้องหมา ไม่ควรมองข้าม




สำหรับผู้เลี้ยงเจ้าตัวน้อยสี่ขาไม่ว่าจะเป็นน้องหมาหรือแมว  การดูแลเอาใจใส่สุขภาพสัตว์เลี้ยงของคุณถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่ไม่ควรละเลย วิธีที่คุณจะสามารถดูแลเจ้าสี่ขาให้สุขภาพดีสดใส ร่าเริง ปราดเปรียว ห่างไกลโรคต่างๆ นั้นมีวิธีดูแลที่คุณไม่ควรลืมและทำเป็นประจำ  ดังนี้

1.  เช็ดหู  (Ear Clean)
ข้างในหูจะมีสารเคลือบที่คล้ายขี้ผึ้งอยู่ เรียกว่า “Ear Wax” ถ้ามีสะสมมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดไรในหู  และอาจเกิดอาการคัน  สำหรับการทำความสะอาดควรทำเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง นอกจากจะทำให้หูสะอาดแล้วยังช่วยลดภาวะหูอักเสบได้อีกด้วย

2. แปรงฟัน (Brush Teeth)
ในระยะยาวหินปูนสามารถส่งผลให้เกิดการอักเสบของไต และกล้ามเนื้อหัวใจ และการแปรงฟันก็เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะช่วยลดคราบ Plaque ซึ่งเป็นปัจจัยในการเกิดหินปูน อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดการเกิดกลิ่นปาก สำหรับการแปรงฟัน เราควรแปรงให้เป็นประจำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

 
3. บีบต่อมก้น (Anal Gland)
ต่อมก้น เป็นถุงที่อยู่ข้างๆ ก้นของสุนัขและแมว  มีไว้เก็บสารคัดหลั่ง ปกติแล้วสุนัขหรือแมวจะปล่อยสารคัดหลั่งปนออกมาตอนถ่ายอุจจาระ แต่ก็มีสุนัขหรือแมวหลายตัวที่มีการสะสมไว้จนกระทั่งเกิดการอักเสบและกลายเป็น ฝีดังนั้นเราจึงควรทำการตรวจและบีบต่อมก้นอย่างน้อยเดือนละ1-2 ครั้ง

4.  ตัดเล็บ (Nail Cut)
เล็บเป็นแหล่งที่สะสมเชื้อโรคได้ง่าย แถมยังทำให้เดินไม่ถนัดและอาจลื่นล้มได้เพราะฉะนั้นเราควรหมั่นตรวจ และตัดเล็บอย่างสม่ำเสมอ ทุกๆ 1 - 2  เดือน

 
5. กำจัดเห็บหมัด (Tick & Flea Prevention) 
ตัวเล็กๆ แต่กวนใจทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง พิษสงเหลือร้าย ทั้งดูดเลือด ทั้งเป็นพาหะนำโรคพยาธิเม็ดเลือดที่ทำให้สัตว์เลี้ยงย่ำแย่ เห็นทีต้องกำจัดให้อยู่หมัด โดยใช้ยาป้องกันหยดให้ที่หลัง เดือนละ 1 ครั้ง

6. ป้องกันพยาธิหัวใจ (Heartworm Prevention)
พยาธิหนอนหัวใจ เป็นพยาธิตัวกลมที่มี ยุงเป็นพาหะและมีตัวอ่อน 5 ระยะ ตัวเต็มวัยของพยาธิหนอนหัวใจ จะอาศัยอยู่ในหัวใจห้องล่างขวา สัตว์เลี้ยงที่มีพยาธิหนอนหัวใจจะมีอาการไอแห้งๆ เหนื่อยง่าย ถ้าเป็นมากๆ ตับกับม้ามจะโตท้องกาง ถ้าเป็นหนักอาจถึงขั้นหัวใจล้มเหลว ดังนั้นเจ้าของควรป้องกันเป็นประจำโดยการให้ยาเดือนละ 1 ครั้ง

 
7. ฉีดวัคซีน (Vaccine)
ต้องได้รับการฉีดกระตุ้นเป็นประจำทุกปีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนรวม 5 โรค (ไข้หัด, ลำไส้อักเสบ, ตับอักเสบ, หลอดลมอักเสบ, ฉี่หนู) และวัคซีนพิษสุนัขบ้า เพราะนอกจากจะป้องกันตัวสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังเป็นการป้องกันการติดมาสู่คน

ขอบคุณบทความ
http://www.farmthaionline.com/
ที่มา : โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ, http://www.ชิบะอินุ.com


ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต


Thursday, August 14, 2014

“ชิบะ อินุ” สายพันธุ์นักล่า สายพันธุ์แท้จากญี่ปุ่น







สภาวะอารมณ์และนิสัย



ชิบะ อินุ”  เป็นสุนัขมีความเป็นตัวของตัวเอง  ร่าเริงแจ่มใส คล่องแคล่ว ว่องไว  ฉลาด ขี้เล่น
กล้าหาญ มีไหวพริบ  ใจดี อ่อนโยน  รักซื่อสัตย์ต่อเจ้านายและเป็นมิตรที่ดีกับเด็ก

สายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับ หนู  กระต่าย

ชิบะ”  ค่อนข้างเอาแต่ใจ  และจะแสดงอาการข่มหรือหวงถิ่น  หากมีสุนัขตัวอื่นมารุกราน
ชิบะ อินุ”  เป็นสุนัขที่ดีมาก  หากไม่มีใครไปรบกวน  แต่หากได้มีการฝึกสอน  สามารถเปลี่ยนนิสัยเป็นขี้อ้อนไปเลย

 
ชิบะ อินุ”  สายพันธุ์นักล่า  สายพันธุ์แท้จากญี่ปุ่น
  • เพศผู้ : จะมีความสูง 40  ซม. บวกหรือลบได้  1.5  ซม.
  • เพศเมียจะมีความสูง 37  ซม. บวกหรือลบได้  1.5  ซม.

น้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ  8 – 12  กิโลกรัม
  • ลักษณะขน : เป็นขน  2  ชั้น
1.            ขนชั้นนอก  มีความหยาบกระด้างและตรง
2.            ขนชั้นใน  จะมีความนุ่มและหนา


ขนสั้น  ลักษณะ  รูปหน้า  หูและขา  จะคล้ายหมาป่า
ขนช่วงลำตัวไปจนถึงช่วงโหนกจะมีความยาวปกปิดร่างกายประมาณ 2  นิ้ว
ขนส่วนหางจะมีความยาวกว่าเล็กน้อย

ชิบะ อินุ”  จะมี  ขนสีแดง  สีดำ  และสีแทนหรือสีเมล็ดงา (แดงผสมสีปลายขนที่มีสีดำ)
ผสมกับสีครีม  สีน้ำตาลอมเหลือง หรือ สีเทาในชนชั้นใน  จะเป็นสีนวลทั้งตัวก็มี

  
แหล่งที่มา  http://www.ชิบะอินุ.com
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Saturday, August 9, 2014

โรคแผลหนอนแมลงวัน






โรคแผลหนอนแมลงวันคืออะไร มีสาเหตุจากอะไร

โรคแผลหนอนแมลงวัน คือ แผลเปิดที่มีหนอนแมลงวันระยะตัวอ่อนอยู่ภายในแผล มีสาเหตุจากแมลงวันชื่อ คริสซอมเมีย เบซเซียนา (Chrysomyia bezziana) ซึ่งเป็นแมลงวันมีลักษณะที่คล้ายกับแมลงวันหัวเขียวที่พบได้ทั่วไปมาก แต่เป็นคนละชนิดกัน มาวางไข่ที่แผล ไข่จะฟักเป็นหนอนแมลงวัน (maggot) ระยะที่ 1 ในระยะเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง หนอนแมลงวันระยะที่ 1 จะไชเข้าสู่แผล และจะกินเนื้อเยื่อเป็นอาหาร ทำให้เกิดแผลลึกลงไป และจะลอกคราบเป็นหนอนระยะที่ 2 และหนอนระยะที่ 3 ระยะเวลาที่หนอนแมลงวันจะอยู่ในเนื้อเยื่อประมาณ 6-7 วัน จากนั้นหนอนแมลงวันระยะที่ 3 ก็จะออกจากแผลตกลงบนดิน ฝังตัวในดินกลายเป็นระยะดักแด้ (pupa) และเจริญเป็นแมลงวันตัวเต็มวัยต่อไป

สัตว์ชนิดใดเป็นโรคแผลหนอนแมลงวันได้บ้าง

โรคนี้สามารถพบได้ในสัตว์หลายชนิด เช่น สุนัข  สุกร  แกะ แพะ  โค กระบือ และ ม้า

สัตว์เกิดโรคแผลหนอนแมลงวันได้อย่างไร

โดยทั่วไปแล้วสัตว์จะต้องมีบาดแผล หรือจุดเลือดออกบนผิวหนังก่อน เช่น ที่สายสะดือของลูกสัตว์เกิดใหม่ บาดแผลที่อวัยวะเพศของแม่สัตว์ที่เกิดจากการคลอดลูก แผลที่เกิดจากการต่อสู้กัน หรือเกิดขึ้นเอง เช่น ไม้ตำ ลวดหนามเกี่ยว หรือแผลจากเห็บดูดเลือด หรือรอยเลือดออกที่เกิดจากการดูดเลือดของเหลือบ ก็จะโน้มนำให้แมลงวันมาวางไข่ได้


โรคแผลหนอนแมลงวันมีผลต่อสัตว์อย่างไร

ผลจากการที่สัตว์มีแผลและมีหนอนแมลงวันอยู่ภายใน หนอนจะกินเนื้อเยื่อและเคลื่อนที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง โดยทั่วไปแล้วจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนร่วมด้วย จะทำเกิดการอักเสบ ความรุนแรงจะขึ้นอยู่ปัจจัยหลายประการ เช่น ถ้าเป็นในลูกสัตว์เกิดใหม่มีแผลที่สะดือ ถึงแม้ว่าหนอนแมลงวันจะออกจากแผลหมดแล้ว แต่การติดเชื้อแบคที่เรียจะทำเกิดหนอง กรณีที่เป็นแผลปิดก็จะเกิดการอักเสบหรือเป็นฝีเรื้อรังต่อไปได้อีกนาน ถ้าเป็นในโคนมก็จะมีผลทำให้น้ำนมลด หรือสัตว์จะรำคาญจนทำให้กินอาหารได้น้อยลง จนอาจจะมีผลต่อการเจริญเติบโต

คนติดโรคแผลหนอนแมลงวันได้หรือไม่

ในประเทศไทย เคยมีข่าวที่คนเกิดโรคแผลหนอนแมลงวันหลายราย ถึงแม้ว่าบางครั้งจะไม่สามารถยืนยันชนิดของแมลงที่ทำให้เกิดแผลโรคหนอนแมลงวันได้ก็ตาม จากที่เคยตรวจสอบพบว่าเป็นหนอนแมลงวัน คริสซอมเมีย เบซเซียนา เพียงชนิดเดียวเท่านั้นทั้งในสัตว์ชนิดต่างๆ และในคน

การติดโรคในคนอาจจะเกิดในเด็ก คนปัญญาอ่อน หรือคนที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ เมื่อเกิดแผลเลือดออกทำให้แมลงวันชนิดดังกล่าวมาวางไข่


ควรติดต่อใครเมื่อสงสัยว่าเกิดโรคแผลหนอนแมลงวัน

กรณีสัตว์ : พบสัตวแพทย์
กรณีคน : พบแพทย์

จะป้องกันสัตว์จากโรคแผลหนอนแมลงวันได้อย่างไร

เมื่อเกิดแผล ต้องทำการรักษาทันที ทำความสะอาด ถ้าพบหนอนแมลงวันในแผล ต้องจัดการเอาออกให้หมด ใส่ยาฆ่าเชื้อที่อาจจะเป็นยาปฏิชีวนะหรือกลุ่มซัลฟา แล้วทำการปิดแผล ถ้าไม่สามารถปิดแผลได้ ต้องใส่ยาฆ่าแมลงลงในแผลด้วย ซึ่งปัจจุบันจะมียาใส่แผลที่มียาฆ่าเชื้อและยาฆ่าแมลงผสมอยู่ด้วยกัน และต้องดูแลรักษาจนกว่าแผลจะหายสนิท

จะป้องกันตัวจากโรคแผลหนอนแมลงวันได้อย่างไร

เมื่อเป็นแผล ต้องจัดการทำความสะอาด ใส่ยาฆ่าเชื้อ ปิดแผลให้มิดชิด ป้องกันอย่าให้แมลงวันมาตอม ถ้าแผลใหญ่และเป็นแผลเปิด อาจจะต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน ซึ่งจะสามารถกำจัดไข่หรือหนอนแมลงวันได้

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต