Friday, December 20, 2013

น่ารักโฮก เผยภาพคู่ซี้น่ามันเขี้ยว หนูน้อยมะกันหลับปุ๋ยกับเจ้าตูบ




         ภาพน่ารัก ๆ เห็นแล้วอบอุ่นหัวใจจนอดยิ้มตามไม่ได้ ของพ่อหนุ่มน้อยบิว และเจ้าธีโอ ลูกสุนัขพันธุ์ผสมสีน้ำตาล นอนหลับพริ้มในท่าฟรีสไตล์ก่ายเกยกันอย่างน่ารักน่าชัง เป็นที่ถูกอกถูกใจชาวเน็ตเป็นจนถูกแชร์ออกไปในวงแม่และเด็ก และคนรักสัตว์เป็นจำนวนมาก

          เว็บไซต์ มิเรอร์ผู้นำภาพน่ารัก ๆ เหล่านี้มาแชร์อีกทอด เมื่อวันที่  17 ธันวาคม 2556 ระบุว่า นางเจสสิก้า จากแคลิฟอร์เนีย ซึ่งคุณแม่ของเจ้าหนูบิวเล่าว่า เจ้าธีโอเป็นสุนัขพันธุ์ผสมวัย 7 สัปดาห์ ที่เพิ่งรับมาเลี้ยงที่บ้านเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอนแรกเธอก็ตัดสินใจแล้วว่าจะให้มันนอนแยกกับเด็ก ๆ แต่มาอยู่บ้านได้แค่ 3 วัน เจ้าตูบน้อยก็เริ่มกิจกรรมงีบหลับยามบ่าย ด้วยการมานั่งเฝ้าตอนเธอกล่อมลูกชายคนเล็ก แล้วก็ม่อยหลับไปพร้อม ๆ กัน 

           หลังจากวันนั้น ในตอนบ่ายมันก็จะมายืนรอที่หน้าห้องนอน แล้วรอจนบิวถูกกล่อมหลับ มันจึงค่อยเดินไปหาที่หลับด้วย เธอก็เลยอุ้มมันวางลงในเตียงลูกชาย เจ้าตูบน้อยก็ค่อย ๆ ขยับไปซุกใกล้ ๆ แล้วก็หลับปุ๋ยไปพร้อม ๆ กัน และแล้วกิจกรรมนี้ก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันในยามบ่ายไปโดยปริยาย

          เห็นท่านอนของพ่อหนูและเจ้าตูบแต่ละท่า น่าจะอบอุ่นน่าดูเลยเนอะ อิงแอบแนบชิดกันแบบซะยิ่งกว่าแฟนนอนกอดกันอีก น่ารักจัง อิอิ :D

 














Friday, December 13, 2013

การทำให้สุนัขหยุดเห่า




ตอนนี้เรารู้แล้วว่าสุนัขทุกตัวจะเห่าเป็นบางครั้ง แต่สุนัขบางตัวเห่าบ่อยกว่าตัวอื่นๆ และเจ้าของบางคน ก็ตระหนักถึงความทนทุกข์ของเพื่อนบ้านที่เกิดจากเสียงเห่ามากกว่าเจ้าของคน อื่นๆ ด้วย ดังนั้น ผมจะบอกวิธีช่วยแก่คุณโดยตรงเลย นั่นคือ นิสัยการเห่าของสุนัขควรจะเปลี่ยนได้และจริงๆ มันก็สามารถเปลี่ยนได้

ทำไมเราถึงใช้คำว่า "ควรจะ" ที่เราใช้คำนี้ก็เพราะว่าถ้าการเห่าไม่ได้ทำให้คุณซึ่งเป็นเจ้าของรำคาญแล้วละก็ มันก็อาจจะทำให้เพื่อนบ้านของคุณรู้สึกคลั่งพอที่จะปาก้อนหินใส่หลังคาบ้านคุณได้ และทำไมเราถึงใช้คำว่า "สามารถ" ที่เราใช้คำนี้ก็เพราะว่า เพียงคุณอาศัยความเข้าใจเพียงเล็กน้อยว่าทำไมสุนัขจึงเห่า และใช้ความอดทน อีกเพียงเล็กน้อย คุณก็จะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเห่าของสุนัขได้
การแก้ไขสำหรับทุกๆ ปัญหา

ต่อไปนี้เป็นปัญหาทั่วไปบางปัญหาที่ทำให้เกิดการเห่า และวิธีแก้ไขง่ายๆ บางวิธี 
 
ความเบื่อ : สุนัขต้องการการกระตุ้นทางกายและทางจิตใจ (เช่นการเรียกหา การสัมผัส) เมื่อมันไม่ได้รับการกระตุ้นเหล่านั้น วิธีหนึ่งที่จะขจัดความคับข้องใจคือการเห่า เห่าและเห่าเข้าไป เช่น เพื่อนบ้านของเรา ที่เพื่อนบ้านคนนี้ทำผิดพลาดอย่างร้ายกาจก็คือการซื้อเจ้าสุนัขพอยเตอร์ขนสั้นที่ถูกอบรมให้วิ่งตามนักล่าสัตว์ได้ไกลเป็นไมล์ๆ มาเลี้ยงในบ้านหลังเล็กๆ (70 ตารางวา) และสนามหญ้าขนาดเท่าแสตมป์ เห็นอย่างนี้แล้วผมว่าเจ้าปากเสียจะต้องอึดอัดเป็น บ้าแน่ๆ เลย 

วิธีแก้ คือ ดูให้แน่ใจว่าสุนัขของคุณได้รับการเอาใจใส่อย่างพอเพียง (ประกอบด้วยการเล่นและการฝึก) มีของเล่นเพียงพอ และมีการออกกำลังที่เพียงพอ สุนัขที่มีคนให้ความรัก ได้ออกกำลัง และมีอะไรให้ทำจะไม่ค่อยเห่าทั้งวัน (ทั้งคืน) อย่างเจ้าตัวแสบข้างบ้านผม ที่สำคัญตอนเลือกซื้อลูกสุนัขก็ควรเลือกพันธุ์ที่เหมาะกับขนาดบ้านของคุณ

 
การค่อยๆดัดนิสัย : มันดูน่ารักใช่มั้ยครับเมื่อลูกสุนัขของคุณเห่าเพื่อขอขนมปัง แต่เมื่อเสียงเห่าแหลมเล็กนั้นกลายเป็นเสียงลึกในลำคอที่ใช้ขู่ให้คุณทำโน่น ทำนี่ ให้ลูบหลัง ให้พาไปเดินเล่น หรือขู่เอาของเล่นแล้วล่ะก็ มันก็ไม่น่ารักเอาเสียเลย 

วิธีแก้ คือ ถ้ามันเห่าเพื่อที่จะออกจากกรง แล้วเข้าไปในห้องของคุณ เพื่อจะขึ้นไปบนที่นอน หรือเปลี่ยนจากเสียงเห่าเป็นเสียงขู่แล้วล่ะก็ บอกให้มันนั่งลงและเงียบก่อนที่คุณจะทำตามที่มันต้องการ ถ้ามันตื่นเต้นเกินไปที่จะนั่ง ให้รอจนกว่ามันจะหยุดเห่าสัก 2-3 นาที กล่าวชมมันเมื่อมันเงียบ แล้วให้รางวัลมันด้วยบิสกิตหรือขนมที่มันชอบ แต่ต้องให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ตะโกนสั่งมัน เพราะเมื่อมนุษย์ตะโกนใส่สุนัข สุนัขจะคิดแค่ว่ามนุษย์กำลังเห่าอยู่เช่นกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องตลกดี ทางที่ดี ให้คุณใช้เสียงที่แข็งแต่สุขุมแทนและพูดคำง่ายๆ ว่า "เงียบ" หรือ "เฉยๆ นะ"
 
ความกังวลที่จะต้องแยกจากเจ้าของ : แน่นอนว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันควรจะต้องเห่าหอน ถ่ายปัสสาวะ หรือทำลายข้าวของในบ้านเวลาที่คุณไม่อยู่ด้วย 

วิธีแก้ คือ ลองเปิดสถานีวิทยุที่มีการพูดคุยหรือเปิดเพลงคลาสสิคทิ้งไว้ขณะที่คุณไม่อยู่บ้าน จ้างคนจูงสุนัขไปเดินเล่น และทำให้มันชินกับการที่คุณไม่อยู่บ้านด้วยการออกจากบ้านอย่างเงียบเชียบไปสัก 15 นาที แล้วกลับมาอย่างเงียบๆ (การมาและการไปของคุณนี้จะทำให้มันรู้สึกถึงความสำคัญที่มีคุณอยู่อีกด้วย) ชมเชยเมื่อมันอยู่อย่างเงียบ จากนั้นก็ลองจากไปเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น ค่อยๆ เพิ่มเป็น 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ 2 ชั่วโมง ไปเรื่อยๆ สุนัขบางตัวอาจต้องใช้ยาเพื่อต่อต้านความซึมเศร้าหรือยาต้านความกังวล ให้ลองถามสัตวแพทย์ของคุณดู

 
การละเลยทอดทิ้ง : สุนัขบางตัวเห่าเพราะถูกละเลย เช่น ถูกปล่อยให้หิวข้าว หิวนํ้า หนาว หรือปวดปัสสาวะ หรือไม่เช่นนั้นก็ความรู้สึกโดดเดี่ยว เช่น ลูกสุนัขที่ถูกทิ้งไว้ในลังตลอดวัน อาจจะเห่าเงาหางตัวเองเพราะมันต้องกวัดแกว่งหางหรือมันอาจกลัวหรือรู้สึกอ้างว้าง 

ทางแก้ คือ อย่าปล่อยลูกสุนัขไว้ในกรงตลอดวัน คุณอาจจะต้องหาใครบางคนให้มาเดินเล่นกับมัน สัก 2 หรือ 3 รอบขณะที่คุณอยู่ที่ทำงาน หากคุณตัดสินใจหาคนมาดูแลมันแล้ว ก็สั่งการให้แน่ใจ ว่าสุนัขของคุณมีน้ำดื่มเพียงพอ ได้รับอาหารที่เหมาะสม และถูกพาเข้าบ้านเมื่ออากาศร้อนหรือ เย็นเกินไป
 
ความกลัว : สุนัขบางตัวเห่าเพราะมันรู้สึกกลัวสิ่งที่เห็นและเสียงต่างๆ รอบตัว ไม่ว่ามันจะอยู่ข้างใน หรือข้างนอกบ้าน 

วิธีแก้ คือ ถ้าสุนัขของคุณอยู่ข้างในบ้าน คุณสามารถช่วยมันได้มาก ด้วยการกันมันจากสิ่งเร้าต่างๆ เอามันไปไว้ในห้องห่างจากถนน เปิดเพลงให้มันฟัง และปิดม่านบังแสงเสีย แต่ถ้ามันอยู่ข้างนอก ลองพามันออกจากที่กำบังทีละน้อย ให้มันได้เข้าไปใกล้ภาพหรือเสียงที่ทำให้มันกลัว ลูบมัน พูดกับมันด้วยเสียงปลอบโยน และช่วยให้มันรู้สึกผ่อนคลาย จากนั้นก็ชมเชยที่มันเงียบและสงบลง 

 
แน่นอนว่าจะต้องมีหลายครั้งที่คุณต้องการให้สุนัขของคุณเห่า เช่น เมื่อคนแปลกหน้ามาที่หน้าบ้าน หรือมายืนอยู่ตรงหน้าต่างบ้านของคุณ นั่นคือเหตุผลที่คุณไม่ต้องการสอนให้สุนัขเงียบจนเป็นใบ้ ให้สอนมันว่าจะเห่าก็ไม่เป็นไรจนกระทั่งคุณบอกว่า "เงียบ" มันต้องเงียบตามที่คุณสั่ง ถ้ามันเห่าเมื่อมีคนมายืนหน้าบ้านก็ขอบคุณมันเถอะที่มันเตือนคุณให้รับรู้ ถึงอันตราย ในกรณีนี้คุณต้องบอกให้มันเงียบแล้วก็ชมเชยมันด้วย ปฏิสัมพันธ์เชิงโต้ตอบเช่นนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและสุนัขของคุณเป็นความสัมพันธ์ที่เยี่ยมยอด

แหล่งที่มา  http://members.tripod.com/the_dog100/a3.htm
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Wednesday, November 27, 2013

การทำความสะอาดหูให้หมาแมว




          หูของสัตว์เลี้ยงมักจะเป็นรูปตัว" L" มากกว่าหูของคนและเศษเนื้อเยื่อหรือขี้หูจึงมักจะถูกเก็บสะสมอยู่บริเวณมุมของตัว "L" การ กำจัดขี้หูที่สะสมในช่องหู สามารถทำได้ด้วยการใส่น้ำยาสำหรับทำความสะอาดหูลงไปในช่องหู ทั้งนี้ น้ำยาล้างหูที่ดีควรมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ แต่ไม่ควรใช้วิธีการแทง กระแทก ควรบีบนวดบริเวณโคนหูประมาณ 20-30 วินาที เพื่อทำให้เศษเนื้อเยื่ออ่อนนุ่มและหลุดออกมา

          จากนั้น ทำการเช็ดเอาเศษเนื้อเยื่อที่หลุดออกและใช้ก้านไม้ที่พันด้วยสำลีที่ชุบให้ชุ่มไปด้วยน้ำยาทำความสะอาดช่องหู ให้ทำซ้ำๆ กันจนไม่พบว่ามีเศษเนื้อเยื่อหรือขี้หูหลงเหลืออยู่ในช่องหูอีก ถ้าสภาพภายในช่องหูมีเนื่อเยื่อ หรือขี้หูมาก อาจจะทำความสะอาดตามวิธีดังกล่าววันละ 2 ครั้ง

          อาจจะใช้ก้านไม้พันด้วยสำลี หรือ cotton bud ในการทำความสะอาดช่องหู และด้านในของใบหู แต่ไม่ควรแหย่ให้ลึกเข้าไปในช่องหูมากนัก เพราะจะทำให้ขี้หูหรือเศษเนื้อเยื่ออัดกันแน่นภายในช่องหูมากกว่าเป็นการเขี่ยเอามันออกมา

          สัตว์บางตัวพบมีว่าปัญหาของช่องหูที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความเจ็บปวด การทำความสะอาด หรือขณะให้การรักษาอาจจะมีความจำเป็นต้องทำให้สลบเสียก่อน แต่ในบางครั้งสัตว์จะไม่ยอมให้ทำความสะอาดหูของมัน เพราะมันไม่ชอบ มันรำคาญ เจ้าของจะต้องพูดคุยกับมัน ให้มันผ่อนคลายในระหว่างที่ทำความสะอาด ถ้ามันเชื่อฟังควรต้องชมเชย ให้รางวัล

          หลังจากทำความสะอาดหูแล้ว ปล่อยให้มันสั่น หรือสะบัดหัวได้และปล่อยให้แห้ง หลังจากนั้นจึงค่อยใส่ยาให้

 การป้องกันโรคหู

          หัวใจสำคัญในการทำให้ช่องหูสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดีคือ ความสะอาด ดังนั้น ควรตรวจสอบช่องหูของสัตว์เลี้ยงของท่านทุกสัปดาห์ การพบว่ามีขี้หูเพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นสิ่งปกติ ถ้าสัตว์เลี้ยงชอบเล่นน้ำมาก หรือมีใบหูยาวห้อย หรือมีประวัติโรคของช่องหู แนะนำให้ทำความสะอาดช่องหูเป็นประจำ(2-3 ครั้งต่อสัปดาห์) ด้วยวิธีการดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

          และถ้ารอบ ๆ ช่องหูมีขนยาวมาก ให้ตัดให้สั้น เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก การรักษาโรคของช่องหูควรรักษา หรือกำจัดสาเหตุของโรค ซึ่งเป็นเหตุโน้มนำทำให้เกิดปัญหาของช่องหูจึงจะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพ สูงสุด

          พึงระลึกไว้เสมอว่า ถ้าสัตว์เลี้ยงของท่านรู้สึกไม่สะดวกสะบาย กระวนกระวายอย่างมากแสดงให้เห็น ช่องหูมีกลิ่นเหม็นมาก หรือช่องหูมีความผิดปกติ ไม่ควรรีรอที่จะนำมันมาพบสัตวแพทย์ ถ้าเยื่อแก้วหูของสัตว์เลี้ยงของท่านเกิดความเสียหาย การใช้ยาบางชนิด หรือน้ำยาทำความสะอาดช่องหูบางชนิดอาจจะเป็นอันตรายมากกว่าเป็นการรักษา ดังนั้นจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์


แหล่งที่มา  http://pet.kapook.com, ม.เกษตรฯ
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Sunday, November 10, 2013

6 วิธีกำจัดกลิ่นฉี่สัตว์เลี้ยง บนพรมผืนโปรด




         สัตว์เลี้ยงน่ารักอย่างน้องหมา น้องแมว มีไว้ก็ช่วยให้หายเหงาได้ไม่น้อย แต่เหล่าคนรักสัตว์ก็จำต้องยอมรับปัญหาเรื่องสิ่งปฏิกูลของเจ้าสี่ขาอย่าง ช่วยไม่ได้ ถ้าดูแลจัดการได้ดีก็หายห่วง แต่ถ้าเกิดฝึกเขาแล้วยังติดนิสัยฉี่เรี่ยราดใส่พรมอีกก็คงเพลียใจเพราะกลิ่น ฉุน ๆ น่าดู ถ้าเจอปัญหาน่าปวดหัวแบบนี้รีบแก้ไขโดยด่วนด้วยวิธีต่อไปนี้ดีกว่าค่ะ

1. อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอมโมเนีย

          เมื่อน้องหมาน้องแมวฉี่ใส่พรม เราก็คงวุ่นวายหาวิธีจัดการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกอย่างรวดเร็ว แต่ถึงจะรีบยังไงก็อย่าเผลอใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอมโมเนียเป็นส่วน ผสมเด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง เพราะในฉี่ของเจ้าสี่ขา ก็มีแอมโมเนียอยู่เหมือนกัน ซึ่งอาจทำให้เขาสับสนได้ว่ากลิ่นผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ก็คือกลิ่นฉี่ของเขา จนอาจจะฉี่ซ้ำรอยเดิมเป๊ะ ๆ ตามสัญชาตญาณนั่นเอง

2. ซับให้แห้งโดยเร็ว

          ถ้าสัตว์เลี้ยงเพิ่งปล่อยของเสียออกมาใหม่ ๆ ให้รีบใช้ทิชชูซับน้ำออกจากพรมให้ได้มากที่สุดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ฉี่ของเขาซึมลึกฝังแน่นบนพรม จนกำจัดออกยาก หรือถ้ามีเครื่องดูดฝุ่นชนิดที่สามารถดูดได้ทั้งแห้งและเปียก ก็ให้รีบนำมาใช้กับรอยเปื้อนโดยด่วนเลยค่ะ

3. กำจัดกลิ่นด้วยน้ำส้มสายชู

          หลังจากซับสิ่งปฏิกูลของน้องหมา น้องแมวจนเกือบหมดแล้ว ให้ผสมน้ำสายชู กับน้ำธรรมดา ในปริมาณเท่า ๆ กัน แล้วนำมาซับลงไปบนพรมจนชุ่มพอประมาณ เสร็จแล้วให้รีบนำกระดาษทิชชูหรือผ้าแห้งซับอีกครั้งให้แห้งให้ได้มากที่สุด กรดในน้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดกลิ่นฉี่ของน้องหมา น้องแมว ได้หายห่วง หมดปัญหาเจ้าสี่ขากลับมาฉี่ซ้ำรอยเดิมแน่นอน

4. ย้ำอีกครั้งด้วยเบกกิ้งโซดา

          หากกลัวว่าน้ำส้มสายชูอาจจะช่วยดับกลิ่นได้ไม่ดีพอ ก็ลองโรยผงเบกกิ้งโซดาลงบนจุดที่มีปัญหาสักนิด แล้วใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำความสะอาดอีก ครั้ง อย่าลืมเช็กดูให้ดีด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียด้วยนะคะ เสร็จแล้วก็ซับพรมให้แห้งด้วยผ้าอีกรอบก็เรียบร้อย

5. กำจัดคราบฝังแน่นให้หมดจด
         
          สำหรับกลิ่นฉี่ที่ฝังแน่นอยู่นานแล้วบนพรม ให้ใช้น้ำเจือจางคราบก่อน แล้วใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียทำความสะอาดอีกครั้ง จากนั้นให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำกลั่นมาวาง แล้วทับด้วยของมีน้ำหนัก เช่น หนังสือเล่มใหญ่ ๆ หรือก้อนอิฐ ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง วางผ้าแห้งไว้รอบ ๆ เพื่อให้คอยซับน้ำส่วนเกินที่ซึมออกมาด้วยก็ดีค่ะ ขั้นตอนสุดท้ายให้โรยเบกกิ้งโซดา แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นชนิดแห้งและเปียกดูดผงเบกกิ้งโซดาและความชื้นออกจาก พรมให้หมด

6. มองหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

          เพื่อการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ลองมองหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของสัตว์เลี้ยงจากร้าน ขายของสำหรับน้องหมา น้องแมว โดยเฉพาะก็ได้ เพราะที่นั่นจะมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดให้คุณได้เลือกมาลองใช้ดู ถ้าเป็นไปได้ควรจะลองใช้ผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย เพื่อจะได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์แบบไหนใช้ได้ผลดีที่สุด แต่ก็อย่าลืมนะคะว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ไหนในโลกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วจะแก้ปัญหา ให้คุณได้ทันทีเลย โดยเฉพาะกับรอยเปื้อนที่ฝังแน่นมานาน ดังนั้นก็ควรทำความสะอาดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง แล้วคอยดูว่าผลิตภัณฑ์ไหนที่ทำให้คุณเหนื่อยน้อยที่สุดค่ะ

          ถ้าเจ้าสี่ขาตัววุ่นของเราเขารู้เรื่องกว่านี้ ก็คงไม่อยากสร้างความวุ่นวายให้เราอย่างแน่นอนล่ะค่ะ แต่ปัญหาแบบนี้จริง ๆ ก็เป็นเหตุสุดวิสัย ดังนั้นเจ้าของอย่างเราก็ต้องคอยดูแลและแก้ปัญหากันต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวิธีที่เรานำเสนอมาทั้งหมดนี้ จะเป็นตัวช่วยที่ดีของคุณได้อย่างแน่นอน ยังไงก็ลองนำไปใช้กันดูนะจ๊ะ


ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต