Saturday, December 15, 2012

น้องหมาพันธุ์ : สปิตซ์ (Spitz)



เป็นชนิดของพันธุ์สุนัข ขนมีลักษณะยาวหนาและมักจะเป็นสีขาว หูตั่งและหน้ายื่น หางมักจะม้วนกลับขึ้นไปที่หลังของสุนัข มีนิสัยร่าเริง ฉลาด และขี้เล่น ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และเชื่อฟังเจ้าของ อาจจะเห่าเก่ง เพราะมันจะมีสัญชาติญาณในการเตือนภัยให้เจ้าของเมื่อมันรู้สึกว่ามีอันตราย หรือมีคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาใกล้ มันจะทำตัวเป็นยามปกป้องบ้านอยู่เสมอเลย 

ตามปกติแล้วเป็นสุนัขที่ฝึกได้ง่าย แต่เจ้าของจะต้องให้เวลากับมันและฝึกอย่างสม่ำเสมอ สุนัขพันธุ์นี้จะชอบเล่นเกม อย่างพวกขว้างของแล้วให้ไปเอากลับมานี่จะชอบมากเป็นพิเศษ โดยทั่วไปแล้วสุนัขพันธุ์นี้เป็นมิตรกับเด็ก และเข้ากันได้ดีกับสุนัขที่ถูกเลี้ยงอยู่ในบ้านเดียวกัน

การดูแลขน
การดูแลขน นี่ควรจะได้รับการแปรงหรือหวีอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องพาไปตัดขน ตามปกติแล้วเจ้าสปิตซ์เป็นหมาที่รักสะอาดมาก อาจจะไม่ต้องอาบน้ำบ่อยนักในหน้าผลัดขน ขนของสุนัขพันธุ์นี้จะร่วงค่อนข้างเยอะ ตามลักษณะของสุนัขพันธุ์ที่มีขนสองชั้นและเป็นสุนัขในกลุ่ม Northern Breed ทั่วไป
  
แหล่งที่มา  http://th.wikipedia.org


Wednesday, November 28, 2012

ซีลี่แฮม เทอร์เรียร์ สุนัขพันธุ์หายากในอังกฤษ



ที่อังกฤษมีการเปิดเผยสุนัขพันธุ์ที่หายากยิ่งกว่าแพนด้า โดยปัจจุบันมีเหลืออยู่เพียง 49 ตัวเท่านั้น

สุนัข พันธุ์นี้มีชื่อว่า ซีลี่แฮม เทอร์เรียร์ เคยเป็นที่นิยมในหมู่คนดัง และสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ แต่ปัจจุบันกลับไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป ทำให้จำนวนลดลงเรื่อยๆ และคาดว่าในอีก 10 ปีก็จะสูญพันธุ์หมด


ซีลี่แฮม เทอร์เรียร์ จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขใช้งาน มีไว้เพื่อกำจัดหนูและสัตว์รบกวนต่างๆ เชื่อกันว่า สุนัขพันธุ์นี้เป็นลูกผสมระหว่างสุนัขหลายพันธุ์ได้แก่ อิงลิช ไวท์ เทอร์เรียร์, ฟ็อกซ์ เทอร์เรียร์, แดนดี้ ดินมอนต์ เทอร์เรียร์, เวสต์ ไฮแลนด์ เทอร์เรียร์ และคอร์กี้ ได้รับการจดทะเบียนพันธุ์กับสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสุนัขอังกฤษในปี 2453 และปัจจุบันเป็น 1 ในสุนัข 3 สายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดของอังกฤษ

แหล่งที่มา http://board.postjung.com / http://www.krobkruakao.com


Sunday, October 28, 2012

บุคลิกของเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด


สัตว์เลี้ยงประเภทไหนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นสี่ขา สองขา หูตูบ หูตั้ง บุคลิกของเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด มักจะมีอะไรบางอย่างที่สัมพันธ์กันอย่างไม่น่าเชื่อ

สุนัข

ถ้าคุณเป็นคนที่ รักสุนัขมาก เห็นเป็นไม่ได้ต้องเข้าไปเล่นด้วย บอกได้ว่าคุณเป็นคนที่จริงใจมาก และค่อข้างจะรักเพื่อน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ น้ำใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่นเสมอ คุณมีนิสัยชอบปกป้องดูแลคนอื่น มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม รักความเป็นธรรม คุณเป็นคนที่อนุรักษ์นิยม พูดหรือทำอะไรตรงไปตรงมา จนถึงขั้นเป็นพวกขวานฝ่าซาก จิตใจกล้าหาญ ไมกลัวปัญหา ต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค จิตใจของคุณมั่นคง ไม่อ่อนแอ จุดอ่อนของคุณ คือความไม่รู้จักยืดหยุ่น ขาดความคิดสร้างสรรค์ เวลาอารมณ์เสียจะกลายเป็นคนเก็บกดและอารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่าย

 
แมว

คน ที่ชอบแมวเหมียวมากๆ บอกได้ถึงนิสัยขี้อ้อน คุณเป็นคนที่รักอิสระ ไม่ชอบอยู่ใต้อำนาจใคร ทำอะไรพิถีพิถัน ละเอียดลออ คุณเป็นคนทีฝีมือทำงานปราณีต รสนิยมดี ชอบใช้ของดีมีราคา คุณเป็นคนที่ชอบคิดแต่เรื่องของตัวเองก่อน ไม่ค่อยสนใจคนอื่นๆ เป็นคนหยิ่งจนดูยโส และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ คุณจะเป็นคนเรื่องมาก จู้จี้จุกจิกและขี้ระแวง ถ้าอยากได้ผลประโยชน์จากใคร คุณจะรู้จักประจบประแจงเอาใจ แต่พอสมใจก็หายวับไปกับตา ที่จริงแล้วคนที่ชอบแมว มักจะมีความคิดเป็นของตัวเองสูง ชอบฉายเดี่ยว จึงดูเป็นเหมือนคนไม่จริงใจ ทั้งที่คุณไม่ได้ร้ายอย่างที่คนอื่นคิดเลย
 

หนู

คุณ ที่ชอบเลี้ยงมิกกี้เมาส์ บอกได้ว่าคุณเป็นคนที่ฉลาดปราดเปรียว ขยันขันแข็ง ร่าเริง มองโลกในแง่ดี คุณเป็นนักสะสม กระตือรือร้น รักความก้าวหน้า ค่อนข้างปรับตัวได้เก่ง มีความระมัดระแวงเป็นสัญชาตญาณ บุคลิกท่าทางของคุณดูเงียบขรึม ไม่พูดมาก แต่มีมนุษยสัมพันธ์ดี คุณค่อนข้างเป็นคนฉลาด ไหวพริบดี รักอิสระ ไม่ชอบถูกผูกมัด คุณมักจะเก็บเงินเก่ง เพราะเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ คุณจะมีความสุขกับการสะสมยอดเงินในบัญชีมาก จัดระเบียบกับชีวิตได้ดี วางแผนก่อนใช้เงินเสมอ ทั้งยังดูแลบ้านช่องได้ดีอีกด้วย


กระต่าย

คน ที่ชอบกระต่ายซึ่งเป็นสัตว์ขี้ตกใจบอกถึงนิสัยของคุณที่มีไหวพริบดีรู้จัก เอาตัวรอดเก่ง คุณเป็นคนที่ปกป้องตัวเองได้ดี ลักษณะภายนอกของคุณดูเหมือนเป็นคนอ่อนแอ แต่ภาพในคุณเป็นคนเข้มแข็งแหลมคม และมีเล่ห์กลซ่อนอยู่ คุณเป็นคนระเอียดรอบคอบ มีความระมัดระวัง รู้จักยืดหยุ่นพลิกแพลง บุคลิกของคุณเป็นคนคล่องแคล่ว ท่าทางสุภาพมารยาทดี คุณเป็นคนอ่อนโยน ไม่ชอบการปะทะกันซึ่งๆหน้า ใจกว้าง รักสวยรักงาม รสนิยมดี มีพรสวรรค์ทางศิลปะ คุณค่อนข้างเป็นคนโรแมนติก ติดจะรักสบายไปสักนิด แต่เรื่องของความรู้สึก คุณจะเข้าถึงจิตใจคนอื่นได้ง่าย แม้กระต่ายจะดูเป็นสัตว์ที่ขวัญอ่อน แต่คนที่ชอบกระต่ายกับดูเป็นคนที่แข้มแข็ง มั่นใจ อย่างที่ใครๆคาดไม่ถึงเลยเชียว

ปลา

สำหรับ คุณที่ชอบเลี้ยงปลา บอกได้ถึงความเป็นคนช่างฝัน ช่างอ่อนไหว คุณออกจะเป็นคนที่มีท่าทีค่อนข้างสบาย ไม่ค่อยทะเยอทะยานนัก งานยากๆหนักๆ คุณรับไม่ค่อยไหว ปกติจะเป็นคนที่สุภาพ เรียบร้อย มองโลกในแง่ดี ชอบอยู่กับความฝันมากว่าความจริง ไม่มีนิสัยชอบเอาชนะหรือเกี่ยวกับการแข่งขัน เรียกได้ว่าคุณค่อนข้างขี้อาย ขลาดเขิน อ่อนไหวง่าย และโกรธง่ายแต่หายเร็ว นิสัยพื้นฐานของคุณเป็นคนที่ติดดิน ไม่ค่อนสนใจภาพพจน์ตัวเองเท่าไหร่ เวลาที่คุณโมโหจะเปลี่ยนเป็นคนกร้าวร้าว ปากร้าย ชอบกัดเล็กกัดน้อย ช่างประชดประชัน อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนๆเดียวกัน

  
นก

คุณ ที่ชอบนก ไม่ว่าจะอยู่ชมรมดูนก หรือเลี้ยงไว้ดู จะเป็นคนที่ชอบอิสระและไม่ชอบผูกมัดกับใคร คุณเป็นคนที่ค่อนข้างจะเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง เป็นคนที่คล่องแคล่วแอคทีฟ ไม่ชอบอยู่ที่ใหนนานๆ หรือทำอะไรซ้ำซาก เรียกว่าเป็นคนขี้เบื่อและขี้อวดด้วย คุณมักไม่ค่อยผูกพันกับครอบครัว บางครั้งน่าเบื่อเพราะชอบหงุดหงิดง่าย จุกจิก ขี้บ่น เรื่องรักสวยรักงาม ต้องมาก่อน เวลาไม่พอใจหรือไม่ชอบใคร จะเปิดเผยอารมณ์ให้รู้ทันทีตรงไปตรงมา จนคนรับอารมณ์คุณแทบไม่ทันจริงๆ





แหล่งที่มา  สนุกดอทคอม

Sunday, August 12, 2012

การเลี้ยงดูลูกสุนัขในฤดูหนาว


           ปลายฝนต้นหนาว ช่วงการเปลี่ยนฤดูใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่มีโอกาสเป็นไข้หวัด ในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวนี้เองมักจะพบได้ว่าสุนัขแสนรักก็มีอาการเจ็บป่วย ด้วยโรคหลาย ๆ โรค โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส สุนัขมักจะเป็นโรคติดต่อซึ่งไม่มียาตัวใดที่จะฆ่าเชื้อไวรัสนี้ได้ การที่จะทำให้สุนัขหายป่วยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับระดับอุณหภูมิคุ้มกันของตัวสัตว์เอง การรักษาจึงเป็นเพียงการประคับประคอง โดยการให้น้ำเกลือ และป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เป็นต้น

โรคชนิดต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้กับลูกสุนัขในช่วงฤดูหนาว

           ไวรัส canine herpevirus ลูกสัตว์แรกเกิดร่างกายมีอุณหภูมิต่ำ จะมีความไวต่อการติดเชื้อไวรัสนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุของการตายในลูกสัตว์แรกเกิดที่อายุระหว่าง 9-14 วัน ลูกสุนัขสามารถติดต่อจากแม่สัตว์ผ่านทางน้ำลาย น้ำจากช่องคลอด จะมีอาการกระวนกระวาย ร้องตลอดเวลา ปวดท้อง หายใจถี่ อาจชักหรือเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง การรักษาทำได้เพียงแบบประคับประคอง ได้แก่ การให้สารน้ำทดแทน และการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เพราะไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ ดังนั้นควรรักษาสุขภาพแม่สุนัขให้แข็งแรง ให้ลูกสุนัขอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นประมาณ 37 องสาเซลเซียส

           โรคไข้หัดสุนัข canine distemper เกิดจาดการติดเชื้อไวรัส สามารถติดต่อได้หลายทางไม่ว่าจะเป็น ทางอุจจาระ น้ำลาย ปัสสาวะ น้ำมูก น้ำตา และที่สำคัญคือการติดต่อผ่านทางอากาศและการหายใจอาการในรายที่รุนแรงจะพบว่า สัตว์มีน้ำมูกน้ำตา ไอ หายใจลำบาก ท้องเสีย อาเจียน ปอดปวม บริเวณจมูกและฝ่าเท้าจะหนาตัวขึ้น และอาการทางประสาท เช่น ชัก อัมพาต การรักษาทำได้เพียงแบบประคับประคอง เช่นเดียวกัน โรคไข้หัดสุนัขสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนและไม่สัมผัสกับสุนัขที่ติด เชื้อ เนื่องจากสภาพอากาศเย็นนั้นความชุ่มชื้นของทางเดินหายใจส่วนต้นจะน้อยทำให้ กระบวนการป้องกันโรคของร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ จะติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

           โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งไวรัส แบคทีเรีย หรือรวมกันทั้งสองอย่าง สามารถติดต่อทางการหายใจหรือสิ่งคัดหลั่ง พบได้บ่อยโดยเฉพาะแหล่งขายสุนัขที่เลี้ยงแออัด การระบายและสภาพแวดล้อมไม่ดี ร้อน หนาว หรือลมโกรกมากเกินไป มักแสดงอาการแบบเรื้อรัง มีไข้ไม่สูงนัก กินอาหารได้แต่น้อย ไอมีเสมหะ อาจพบน้ำมูกข้นเล็กน้อย การรักษาจึงทำได้เพียงแบบประคับประคอง เช่นเดียวกันแต่ถ้าไม่รักษาอาจปอดปวม หายใจลำบาก และเสียชีวิตได้ ควรป้องกันโดยปรับสภาพแวดล้อม ออกกำลังกาย อยู่ในที่ที่อบอุ่น

          ทั้งนี้ อาจจะใส่เสื้อสำหรับสุนัขเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย จากทั้งหมดที่กล่าวมาพบว่า เรามักจะพบอัตราเสียชีวิตสูงที่สุดในลูกสุนัข ส่วนในรายสุนัขที่โตแล้วนั้น พบว่าอัตราการเสียชีวิตจะน้อยลงเนื่องจากร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานได้ ดังนั้น การทำวัคซีนตามโปรแกรมในลูกสุนัขเป็นการป้องกันโรคที่ดีอย่างหนึ่ง

          อย่างไรก็ตาม เจ้าของสุนัขควรตรวจเช็คประวัติวัคซีนประจำปี บำรุงรักษาสุขภาพร่างกายของสัตว์ให้แข็งแรง ได้รับโภชนาการที่เหมาะสม มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และงดการนำสุนัขไปพบปะกับสุนัขที่มีประวัติวัคซีนที่ไม่แน่นอน และพยายามให้ร่างกายสุนัขอบอุ่นอยู่เสมอ เท่านี้ก็สามารถช่วยลดอัตราการเกิดโรคไวรัสในช่วงหน้าหนาวนี้ได้แล้ว

แหล่งที่มา  กระปุกดอทคอม / โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

Sunday, August 5, 2012

เลือกน้องหมาให้ลูกรักเลี้ยง

หาก คุณพ่อคุณแม่กำลังจะหาสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะน้องหมาให้มาเป็นเพื่อนกับลูกรัก มีหลากหลายสิ่งที่คุณต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพื่อให้ตรงกับความต้องการของครอบครัว อีกทั้งประเภทของสุนัขยังมีผลต่อความปลอดภัยของลูกๆด้วย
ทิปเล็กๆกับการเลือกน้องหมาให้ลูก 

พิจารณาสภาพในครอบครัว

ประเมินสถานการณ์และความต้องการของครอบครัว เช่น มีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้หรือเปล่า ควรเลือกพันธุ์ที่ไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อการแพ้ เช่น ชเนาเซอร์ (
schnauzers), พุดเดิ้ล, มอลทีส, บิชอง ฟรีซ (bichon frize) เป็นต้น

พิจารณาอายุ
 
ดูอายุของลูกๆและลักษณะนิสัยวิธีการปฎิบัติของพวกเขาต่อสุนัขว่าหยาบกระด้าง หรืออ่อนโยน เลือกสุนัขที่เหมาะกับอายุและขนาดตัวของลูก เพื่อให้ลูกปฏิบัติและเล่นกับสุนัขได้อย่างปกติ

พิจารณาพื้นที่
ประเมินขนาดของพื้นที่ที่บ้านสำหรับการวิ่งเล่นของน้องหมา ควรเลือกพันธุ์ที่มีขนาดพอเหมาะกับพื้นที่ที่บ้าน หากเลือกน้องหมาพันธุ์ใหญ่ ในขณะบ้านแคบนิดเดียว จะรู้สึกอึดอัดทั้งหมาทั้งคน

ถามไถ่และพูดคุย
พูดคุยถามไถ่กับเพื่อนและครอบครัวที่เลี้ยงน้องหมา เพื่อเช็คดูข้อมูลความแตกต่างของพฤติกรรมโดยทั่วไป และการปฎิสัมพันธ์ของน้องหมากับเด็ก ซึ่งสุนัขแต่ละสายพันธุ์มีความเป็นมิตรกับเด็กแตกต่างกันไป

ลงพื้นที่เยี่ยมชม
ลองไปบ้านเพื่อนที่เลี้ยงสุนัข หรือไปที่สถานพักพิงสัตว์เพื่อพิจารณาดูความแตกต่างกันของสุนัข และเป็นการสังเกตดูนิสัย พฤติกรรม ความเป็นมิตรกับเด็กได้โดยตรง

อ่านคู่มือ
หาหนังสือคู่มือสัตว์เลี้ยงมาอ่านประกอบการพิจารณา หากคุณกำลังมองหาน้องหมาพันธุ์ผสม เพื่อเป็นการประเมินอารมณ์ของสุนัข และตรวจสอบว่าเหมาะสมกับวัยและบุคลิกของลูกๆหรือเปล่า

ปรึกษาสัตว์แพทย์
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าน้องหมาพันธุ์ไหนเหมาะกับครอบครัวของเรา ลองปรึกษาสัตว์แพทย์ดูบ้างก็ดีไม่น้อย คุณหมอจะให้ความรู้ความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์หรือประเภทของ สุนัขได้เป็นอย่างดี 

สังเกต
ศึกษาและสังเกตสุนัขพันธุ์ที่ตั้งใจแล้วว่าจะเลือกเข้ามาในบ้านให้ถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจอีกครั้ง ที่สำคัญดูว่าน้องหมาเป็นมิตร อ่อนโยนต่อเด็กแค่ไหน....

การ เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกชนิดไม่ใช่เรื่องเล็กๆอย่างที่คิด เมื่อรับพวกเขาเข้ามาแล้ว คุณต้องดูแล ห่วงใย เอาใจใส่ และอย่าทอดทิ้ง ที่สำคัญต้องมั่นใจว่าพวกมันจะเป็นมิตรแท้กับเด็กๆในบ้าน
ถักรัก ทอสายใย เชื่อมหัวใจในครอบครัวกับ http://family.truelife.com/

แหล่งที่มา  truelife.com

Sunday, April 29, 2012

วิธีการสอนขับถ่ายให้กับลูกสุนัข


การสอนลูกสุนัขในการขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทางด้วยตนเองได้ โดยการฝึกนิสัย ดังนี้

1) หลังจากการกินอาหาร ดื่มน้ำ เล่น หรือตื่นนอน มักเป็นเวลาที่ลูกสุนัขถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ ลูกสุนัขเล็กๆ อาจถ่ายทุก 2-3 ชั่วโมง 

2) เมื่อ ลูกสุนัขรู้สึกอยากถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ มักจะดมกลิ่นบนพื้น บางตัวอาจดมพื้นแล้ววิ่งวนไปรอบๆ ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะต้องรีบนำลูกสุนัขไปยังที่ที่จัดไว้ให้ลูกสุนัขถ่ายทันที
  
3) วาง ลูกสุนัขลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นวัสดุที่ซึมซับได้ดี นอกจากนี้ ยังมีราคาถูกและหาได้ง่าย การเปลี่ยนกระดาษหนังสือพิมพ์ควรเหลือแผ่นเก่าไว้บ้าง เพื่อให้ลูกสุนัขจำกลิ่นและถ่ายที่เดิมอีก

4) เมื่อ ลูกสุนัขขับถ่ายบนกระดาษแล้ว เจ้าของควรแสดงความชื่นชมสุนัข ถ้าสุนัขไปถ่ายบริเวณอื่น ก็ไม่ต้องลงโทษ หรือจับสุนัขไปดมสิ่งขับถ่ายที่อยู่บนพื้น

นอกจากจากการฝึกอุปนิสัยการขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทางแล้ว เราสามารถตรวจดูสุขภาพของสุนัขได้ เมื่อเก็บของเสียที่ถ่ายออกมา ดูว่ามีสีผิดปกติหรือไม่ ถ่ายเหลวไปหรือไม่ มีพยาธิหรือไม่ จากลักษณะที่บ่งบอกนี้จะช่วยให้เรารักษาอาการผิดปกติในระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยให้สุนัขปลอดภัยจากโรคที่มีอาการร้ายแรงได้

แหล่งที่มา  กระปุกดอทคอม  (Lisa)
         





Saturday, April 28, 2012

ก่อนจะเลี้ยงหมา...ต้องรู้อะไรบ้าง?



ตามตำราเขาว่า "ถ้าเริ่มต้นด้วยดี จะสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง" ก็คงจะจริงถ้าต้องการเลี้ยงหมาให้ดี เนื่องจากผู้ที่จะเลี้ยงหมาให้ได้ดีจำเป็นต้องรู้เรื่องของหมาให้ดี เหมือนการเริ่มต้นการเลี้ยงที่ต้องเรียนรู้เรื่องหมาให้ดี เหมือนการเริ่มต้นการเลี้ยงที่ต้องเรียนรู้เรื่องหมาทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เนื่องจากการเลี้ยงหมาเป็นได้ทั้งวิชาการและศิลปะ มันมีชีวิตและจิตใจเหมือนกัน

             การเริ่มเลี้ยงหมา ก่อนอื่นต้องรู้จักสายพันธุ์ของหมาซึ่งมีอยู่มากมาย ทั้งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมฯ และไม่ได้ขึ้นทะเบียน เช่น หมาที่ใช้ในการกีฬา หมาที่ใช้ในการทำงานเป็นต้น เมื่อรู้แล้วก็ต้องถามตัวเองว่าชอบอะไร เท่านั้นก็คงไม่พอ เพราะการเลี้ยงหมาต้องมีคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหลายคนโดยเฉพาะคนในครอบครัว ถ้าเราชอบอยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่เนื่องจากเราไม่ได้อยู่กับหมาตลอดเวลา

             เมื่อ รู้แล้วว่าเราชอบอะไรก็ต้องหาวิธีศึกษาสายพันธุ์ ทำความรู้จักถึงประวัติ ที่มาที่ไป ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการเลี้ยงอย่างสูงสุด เนื่องจากหมาแต่ละสายพันธุ์ แต่ละตัวก็มีความแตกต่างกันไม่เหมือนกัน เราต้องศึกษาถึงถิ่นกำเนิด เนื่องจากหมาที่มาจากต่างถิ่นก็จะมีพื้นฐานที่ไม่เหมือนกัน เช่น หมาที่มาจากยุโรป หรือทางเอเชีย เพราะแต่ละทวีปย่อมมีความแตกต่างด้านอุณหภูมิภูมิคุ้มกันต่างๆ ของหมาก็ต่างกัน ดังนั้นความต้านทานต่อสิ่งรอบข้างของหมาย่อมต่างกัน การเลี้ยงดู การให้อาหาร การสร้างภูมิคุ้มกันก็ต้องต่างกัน

             มาดูสิ่งที่เหมือนกัน คือ หมาทุกตัวจะมีสรีระที่เหมือนกันความต้องการพื้นฐานที่เหมือนกัน แม้อาจมีโรคภัยไข้เจ็บที่ต่างกันอยู่บ้าง เช่น หมาบางสายพันธุ์อาจมีความอ่อนไหวต่อโรคบางโรคมากกว่าหมาอีกสายพันธุ์หนึ่ง ขณะที่หมาอีกสายพันธุ์หนึ่งมีความต้านทานโรคหนึ่งได้ดีกว่า แต่อ่อนไหวต่ออีกโรคหนึ่ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้เลี้ยงจะต้องมีประสบการณ์ในการเลี้ยงมาเป็นอย่างดี

             เรื่อง การผสมพันธุ์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่การเลี้ยงหมาจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ อาจเรียกได้ว่าสำคัญที่สุดก็ได้ เพราะการผสมพันธุ์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ดังที่กล่าวไปแล้ว เนื่องจากผู้เลี้ยงหมาไม่อาจเป็นผู้ผสมพันธุ์หมาได้ทั้งหมด ก่อนอื่นถ้าเรามาพิจารณาเอกสารใบพันธุ์ประวัติ จะมีช่องที่ระบุว่าใครเป็นผู้ผสมพันธุ์ ถ้าไม่มีความสำคัญคงไม่มีที่ให้ระบุไว้ ดังนั้นผู้ผสมพันธุ์จึงมีความสำคัญอย่างมาก อย่างน้อยชื่อของผู้ผสมพันธุ์จะต้องอยู่ในเอกสารใบพันธุ์ประวัติของหนาไปจน เอกสารนั้นหมดอายุหรือถูกยกเลิกไป นั่นก็คือหนาตัวนั้นหมดอายุหรือตายไปนั่นเอง

 
เมื่อผู้ผสมพันธุ์มีความสำคัญดังกล่าวแล้ว จึงทำให้มีความรู้สึกว่า ถ้าได้ทำความรู้จักกับผู้ผสมพันธุ์น่าจะได้ความรู้เพิ่มขึ้น ก็จริงอยู่ ถ้าผู้ผสมพันธุ์หมาท่านนั้นเป็นผู้ผสมพันธุ์ที่มีชื่อเสียงจริง แต่ในทางตรงข้าม จากที่ได้พบมาหลายท่านไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้นจึงต้องดูให้ดีว่าท่านกำลังพูดคุยอยู่กับใคร บางคนเพียงแต่นำชื่อไปใส่ไว้เท่านั้น การกระทำดังกล่าวถือเป็นการไม่ให้เกียรติวงการเป็นอย่างมาก สิ่งที่ผู้ผสมพันธุ์จะต้องแสดงออกให้วงการรู้ ได้แก่ ความรู้เรื่องการผสมพันธุ์ตามที่ตนเองมีอยู่ อย่างน้อยก็ความรู้เรื่องหมาที่ตัวเองเลี้ยงหรือเคยเลี้ยง เพราะบางครั้งธรรมชาติของหมาแต่ละสายพันธุ์ก็ไม่เหมือนกันหรือต่างกันอยู่ แล้ว เช่น บางแก้ว พูเดิล เป็นต้น เรื่องดังกล่าวสำหรับผู้เลี้ยงบางแก้วและพูเดิลต่างก็ทราบดี ดังนั้นท่านที่ต้องการจะเลี้ยงหมาสองสายพันธุ์นี้จำเป็นจำต้องศึกษาให้ดี ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรการเลี้ยงหมาของท่านจึงจะประสบผล สำเร็จ

             นอกจากจะต้องทราบความแตกต่างแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ได้แก่ การ ฝึกสอน เพราะการเลี้ยงหมา ถ้าจะว่าไปแล้ว ใครก็สามารถเลี้ยงได้ไม่แตกต่าง แต่การทำให้หมามีคุณค่านั้น เป็นอีกเรื่อง ซึ่งถ้าทำได้จะเกิดความแตกต่างและเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น การฝึกหมามีตำราให้เรียนรู้มากมาย ท่านที่สนใจก็สามารถนำมาศึกษาไดด้วยตนเอง เพราะไม่ได้ยากหรือเกินความสามารถที่จะทำได้ โดยมีเคล็ดลับในการฝึกสอนที่เหมือนกัน ได้แก่ ผู้ที่จะฝึกหมาจะต้องใจเย็นและไม่โมโหเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ก็ให้ปฏิบัติตามที่ได้เรียนรู้มา

             เคล็ดลับอีกอย่างที่ผู้จะทำการฝึกหมาจะต้องรู้ ได้แก่ ธรรมชาติของหมาเป็นสัตว์ที่ต้องการเรียนรู้อยู่แล้ว มีความจงรักภักดี และอยากอยู่ใกล้ชิดผู้เป็นเจ้าของ ดังนั้นผู้ที่จะทำการฝึกสอนหมาที่ฉลาดจะต้องนำคุณสมบัติดังกล่าวออกมาใช้ให้ เป็นประโยชน์หรือแม้แต่ต้องค้นหาคุณสมบัติดังกล่าว แล้วนำออกมาใช้ก็จะประสบผลสำเร็จได้ไม่ยาก การนำธรรมชาติของหมาออกมาใช้ก่อนอื่นจะต้องรู้ว่าหมาที่จะนำมาฝึกสอนนั้น เป็นหมาที่มีคุณสมบัติอย่างไร เช่น หมาอารักขา ก็จะต้องฝึกใช้งานด้านอารักขา หมาทางด้านการกีฬาก้องฝึกให้ใช้งานทางด้านกีฬา เป็นต้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปร่างลักษณะของหมาแต่ละตัว หรือแต่ละสายพันธุ์เป็นสำคัญ ถ้าดูแล้วเห็นว่าเป็นสายพันธุ์อะไรก็ต้องฝึกสอนให้ไปทางนั้น นี่ก็เป็นเคล็ดที่ไม่ลับ ทว่าบางคนก็ไม่นำมาใช้ เพราะมักทำตามใจตัวเองก็จะไม่สำเร็จ ความใจเย็นในการฝึกสอนหมาก็เป็นหัวใจในการฝึกสอนด้วยเช่นกัน

จริงอยู่หมาทุกตัวมีสัญชาติญาณในการต่อสู้ โดยเฉพาะการต่อสู้เพื่อเจ้านาย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะรูปร่างของมันด้วยการนำพูเดิลไปฝึกเป็นหมา อารักขาก็น่าจะไม่แปลก เพราะหมาทุกตัวก็มีความเป็นหมาด้วยกันทั้งนั้น ทว่าที่แปลกก็คือพูเดิลไม่ได้มีสายเลือดอารักขาและรูปร่างก็ไม่เหมาะสม ดังนั้นพูเดิลก็ต้องฝึกให้เป็นพูเดิลครับ ส่วนหมาอารักขาก็มีอยู่มากมายที่จะนำมาฝึกใช้งานให้เป็นหมาอารักขาที่ดีได้ ไม่ว่าจะเป็น รอตต์ไวเลอร์เยอรมัน เชพเพิร์ด หรือโดเบอร์แมนน์

             นอกจากหมาพวกนี้จะนำมาฝึกสอนให้เป็นหมาใช้งานด้านอารักขาแล้ว ยังสามารถนำมาฝึกใช้งานอย่างอื่นได้ เช่น นำมาฝึกสอนให้ช่วยเป็นหมานำทางคนตาบอด หรือหมาเฝ้ายามก็ได้
            
             หมา นั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร หรือด้านใด ทั้งในทางที่ถูกและผิด ผู้เลี้ยงหมาต้องเป็นผู้ค้นหาในเรื่องทำนองนี้ ซึ่งก็จะทำให้หมาที่เลี้ยงมีคุณค่า ยิ่งถ้าเป็นการเลี้ยงเพื่อธุรกิจ การฝึกสอนก่อนการจำหน่ายมักจะทำให้จำหน่ายได้ในราคาที่สูงกว่า เนื่องจากหมาของเรามีคุณค่าที่สูงกว่าหมาที่มีขายทั่วไปในท้องตลาดเชื่อว่า ผู้ซื้อก็ต้องพิจารณาคุณค่าก่อนหมาที่ไม่มีคุณค่าอะไร

             จง จำไว้ว่าการเลี้ยงหมานั้น ผู้เลี้ยงจะต้องรู้จักหมาที่จะเลี้ยง แล้วจะประสบผลสำเร็จ ถ้าไม่รู้ก็ต้องหาวิธีศึกษา ไม่ใช่ว่าสักแต่ว่าเลี้ยง ก็จะเลี้ยงได้ไม่ดี สิ่งสำคัญเมื่อเลี้ยงแล้วต้องเลี้ยงให้ดี การนำหนาไปปล่อยให้เป็นภาระของสังคมเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควร ถ้ารักหมาไม่ควรทำอย่างนั้น จงรู้ไว้เสมอว่าหมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคนเรา

แหล่งที่มา   กระปุกดอทคอม
                  (Dogazine Healthy)

เรื่องโดย :            D.Dogs Kennel, TH.