Friday, November 8, 2013

10 ไอเดีย ลดความซุกซนของเจ้าตูบ ขณะอยู่ในบ้าน




        เชื่อว่าหลายคนคงมีปัญหากับสุนัขของตัวเองไม่น้อยเวลาที่อยู่ร่วมกันในบ้าน เพราะนอกจากจะซุกซนคุ้ยของเป็นว่าเล่นแล้ว พวกมันยังชอบเดินไปเดินมา แถมบางครั้งก็มาปลุกคุณบนเตียงขณะที่กำลังนอนหลับ หรือกัดของรักของหวง อย่างเช่น ของแต่งบ้าน รองเท้า และหมอนเป็นว่าเล่นด้วย เจอแบบนี้ต้องจับมาอบรมสั่งสอนนิสัยกันเสียหน่อยแล้ว

1. สุนัขกัด

         สถานการณ์ - ขณะที่คุณกับสุนัขกำลังเล่นของเล่นด้วยกัน แล้วทันใดนั้นสุนัขก็งับมือคุณแทนที่จะเป็นของเล่น

         น้ำเสียง - ควรสั่งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ถึงแม้ว่าสุนัขจะไม่ได้ตั้งใจกัดจริง ๆ ก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขทำแบบนี้กับคนอื่น

         ท่าทาง - หลังจากที่อุทานออกมาด้วยเสียงสูง ให้ใช้มือจับบริเวณที่โดนสุนัขกัดแล้วทำท่าทางคล้าย ๆ กับการร้องไห้ จากนั้นก็จะเข้าใจเองว่า การทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี


2. สุนัขอยู่ในอันตราย

         สถานการณ์ - ขณะที่สุนัขกำลังวิ่งเล่น บังเอิญก็วิ่งไปชนกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดชิ้นหนึ่งเข้าพอดี

         น้ำเสียง - พูดว่า ระวัง ! ขณะที่สุนัขอยู่ในอันตราย ไม่ใช่แค่การเตือนล่วงหน้า

         ท่าทาง - ถ้าคุณอยู่ใกล้ ๆ กับสุนัขให้ใช้มือหรือเท้าช่วยเคลื่อนย้ายสุนัขออกจากบริเวณนั้น

3. สุนัขส่งเสียงดัง

          สถานการณ์ - สุนัขเห่าเสียงดัง เมื่อมีคนมาที่บ้าน หรือหลังจากเสียงกริ่งดังขึ้น

          น้ำเสียง - พูดคำว่า "เงียบ" ด้วยเสียงดัง และหนักแน่น

          ท่าทาง - ใช้นิ้วชี้วางไว้ที่ริมฝีปากพร้อมกับมองไปที่ตาของสุนัข ลักษณะเดียวกับเวลาที่คุณสั่งให้เด็ก ๆ เงียบ


4. ลดความกลัว

          สถานการณ์ - สุนัขมีท่าทางหวาดกลัวสิ่งของ หรือเกิดสถานการณ์ที่ทำให้สุนัขตื่นตระหนก ตกใจ

          น้ำเสียง - ปลอบประโลมสุนัขด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

          ท่าทาง - หลังจากที่สุนัขสงบลงแล้ว ให้คุณเข้าไปใกล้ ๆ แล้วจับมากอด


5. สุนัขอยากกินอาหารของคุณ

          สถานการณ์ - ขณะที่คุณกำลังกินอาหาร แล้วสุนัขเดินมานั่งใกล้ ๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองที่คุณ เพื่อขออาหาร

          น้ำเสียง - บอกกับสุนัขว่า อาหารหมดแล้ว ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

          ท่าทาง - ในขณะที่คุณกำลังพูด ให้ผายมือออกไปให้สุนัขเห็นด้วย หลังจากที่สุนัขเห็นฝ่ามือว่างเปล่าของคุณ ก็จะเดินออกจากตรงนั้นไปเอง

6. สุนัขยืนขวางทาง

          สถานการณ์ - ขณะที่คุณกำลังสาละวนอยู่กับการทำอาหารในห้องครัว ไม่นานสุนัขก็เดินเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวคุณ

          น้ำเสียง - สั่งให้สุนัขเดินออกไปด้วยเสียงสูง และพูดซ้ำ ๆ ติด ๆ กัน

          ท่าทาง - ขณะที่กำลังพูดใช้มือดันหลังสุนัขให้เดินออกไป


7. สั่งให้หยุด

          สถานการณ์ - หากพบว่า สุนัขของคุณกำลังกัดสิ่งของอยู่อย่างสนุกสนาน

          น้ำเสียง - พูดด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกับเสียงของคุณครูที่ใช้สั่งกับเด็ก ๆ

          ท่าทาง - แค่น้ำเสียงเข้ม ๆ ของคุณก็เพียงพอแล้ว

8. ห้าม (เตือน)

           สถานการณ์ - สุนัขกำลังทำท่าจะกัดหรือนำสิ่งของมาเล่น

           น้ำเสียง - สั่งให้ "หยุด" เพื่อเป็นการเตือนล่วงหน้า

           ท่าทาง ยื่นของเล่นชิ้นอื่นให้แทน

9. เลียมือ

          สถานการณ์ - สุนัขตัวน้อยของคุณมักจะเลียมือคนเป็นประจำ

          น้ำเสียง - สั่งห้ามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

          ท่าทาง - ดึงมือออกมา และลูบหัวแทน

10. แบ่งสิ่งของระหว่าง คุณ กับ สุนัข

          สถานการณ์ - คุณซื้อของมา 2 ชิ้น สำหรับตัวเองกับสุนัข

          น้ำเสียง - พูดคำแรกด้วยเสียงต่ำ และพูดคำต่อไปด้วยเสียงสูง

          ท่าทาง - ถือสิ่งของของคุณไว้ในมือ แล้วนำสิ่งของมาแนบกับอก พร้อมกับพูดคำว่า "ของฉัน" และวางสิ่งของอีกชิ้นเอาไว้ตรงขาหน้าสุนัขพร้อมกับพูดว่า "ของเธอ" หรือเปลี่ยนคำพูดให้นุ่มนวลขึ้น อย่างเช่น "ฉันให้ของชิ้นนี้กับเธอ" ก็ได้
        
          หวังว่าทั้ง 10 ไอเดียที่นำมาฝากกันในวันนี้จะช่วยให้สุนัขเชื่อฟังคำสั่งของคุณมากขึ้น และอยู่ร่วมกันในบ้านอย่างมีความสุข สนุกสนาน ในทุก ๆ วันนะคะ


ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็

Saturday, October 26, 2013

ทำอย่างไรเมื่อถูก..หมากัด ?





คำถามนี้บางคนอาจจะตอบได้บางคนก็อาจไม่รู้เลย... จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีคำถามอยู่ไม่กี่คำถามที่ผู้ป่วยมักจะถามเมื่อถูกหมากัด เช่น 

      * หมาฉีดวัคซีนอยู่แล้ว..ยังต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอยู่อีกเหรอ  

      * ทำไมหมากัดแล้วต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักด้วยละหมอ..เกี่ยวกันด้วยเหรอ.. ไม่ได้โดนตะปูตำซะหน่อย  

       * ทำไมค่ารักษามันแพงจัง...แผลนิดเดียวเอง 

เอาเป็นว่าผมจะเล่าให้ฟังเลยแล้วกันครับ..ว่าทำไม มันถึงเป็นเช่นนั้น

ทำไมหมาถึงกันคน
ตามปกติแล้วหมามักจะไม่กัดคนหรอกครับ ยกเว้น มันบ้า (ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า) หรือมันไม่คุ้นเคยกับคนคนนั้น สาเหตุหลังไม่สำคัญครับ...แต่สาเหตุแรกนี่ซิ...อันตราย

ถ้าถูกหมากัดต้องทำอย่างไรบ้าง
 
ทำดังนี้ครับ 

ล้างแผลให้สะอาด ให้ล้างอย่างนุ่มนวลนุ่มนวลนะครับ โดยใช้น้ำและสบู่
  • หากว่าเลือดออกไม่หยุดหรือออกมาก ให้ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดกดไว้ครับ
  • ต้องไปพบแพทย์ครับ เพราะคุณต้องได้รับ vaccine ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

แพทย์จะทำอะไรบ้าง
ก่อนอื่นต้องล้างแผลใหม่ครับ..เพราะว่าในน้ำลายของเจ้าตูบนั้น มีเชื้อโรคอยู่มากมาย..เรียกได้ว่าสกปรกสุดๆ เลยละครับ
  • แพทย์จะตรวจแผลทุกแผลที่ถูกกัดครับ และพิจารณาว่าต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ เกือบ 90 % ต้องฉีดครับ เพราะข้อบ่งชี้ในการฉีดวัคซีน คือแผลมีเลือดออกต้องฉีดวัคซีน ในกรณีที่ไม่ต้องฉีด ก็เช่นถูกเลียอย่างเดียว แต่ถ้าถูกเลียบริเวณที่เป็นแผลถลอกอยู่ก่อนก็ต้องฉีดอยู่ดีนะครับ
  • แพทย์จะพิจารณาด้วยว่า ต้องฉีด Immounglobulin ( ไม่รู้จะแปลเป็นไทยว่าอะไร) หรือไม่...อันนี้แหละครับ...ราคาแพงมาก ซึ่งเจ้า Immonoglobulin นี้แพทย์จะสั่งให้ใช้ในกรณีที่แผลใหญ่ หรือมีเลือดออกมาก หรือถูกกัดบริเวณ มือ เท้า ใบหน้า หรือปลายอวัยวะครับ
  • หากว่าคุณไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักมาก่อน หรือฉีดมาแต่ไม่ครบ( 3 เข็ม) แพทย์จะฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักให้กับคุณด้วยครับ
  • แพทย์จะสั่งยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะให้กลับไปรับประทานที่บ้านครับ
  • แพทย์จะนัดมาทำแผลและฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนดครับ
ตอนนี้หลายคนอาจคิดว่า..อะไรกันนี่..หมากัดนิดเดียว..โดนฉีดยาซะอ่วมเลย... 


หมาฉีดวัคซีนอยู่แล้ว..ยังต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอยู่อีกเหรอ
ต้องฉีดครับ หากว่าเพื่อนบางคนไปอ่านเรื่องการรักษาโรค เวลาถูกหมากัดจากเว็บต่างประเทศ อาจจะเจอคำแนะนำว่าไม่ต้องฉีดก็ได้...แต่ ในประเทศไทยต้องฉีดครับ...เพราะว่าบ้านเราเป็นเมืองร้อน หมาบ้าเยอะกว่าเมืองหนาว และตามมาตรฐานการแพทย์ไทยนั้น ต้องฉีดครับ
  • โดยการฉีดนั้นจะฉีดทั้งหมด 5 ครั้ง ในวันที่ 0, 3, 7, 14 และ 28 ครับ ( นับจากวันที่ถูกกัด )
  • หากหมาที่กัดไม่ตายใน 10 วัน ฉีดแค่ 3 เข็มแรกก็พอ

ทำไมหมากัดแล้วต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักด้วยละหมอ..เกี่ยวกันด้วยเหรอ
ต้องฉีดครับ เพราะแผลถูกสุนัขกัดนั้น ถือเป็นแผลที่สกปรกมาก มากกว่าแผลถูกมีดบาดเสียอีก ทางการแพทย์ ถือว่าเป็น Tetanus prone wound หมายความว่าแผลที่อาจทำให้ติดเชื้อบาดทะยักได้ครับ

ทำไมค่ารักษามันแพงจัง...แผลนิดเดียวเอง
หากกว่าแผลของคุณจำเป็นต้องฉีด immuonglobulin แล้วละก็...แพงในพันบาทขึ้นไปแน่นอนครับ ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนมา รพ. ก็คือ...ใครจะเป็นคนจ่ายค่ารักษาพยาบาล เจ้าของหมาหรือคุณเอง

ทำไมหมอไม่เย็บแผลให้
แผลสุนัขกัด ถ้าไม่จำเป็นจะไม่เย็บนะครับ ยกเว้นแผลใหญ่มากๆ ก็จะเย็บแค่หลวมๆ เพราะว่าเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำลายสุนัขมันมากและจะเจริญได้ดีกว่าในภาวะที่ขาดออกซิเจน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเปิดแผลเอาไว้ครับ 

ดังนั้นจึงต้องทำแผลทุกวัน และทานยาแก้อักเสบให้ครบด้วยนะครับ

แหล่งที่มา  ihealthyblog.blogspot.com, http://www.teenrama.com/what/f_old_what294.htm
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต